สำรวจเช็คส่วนประกอบรถบ้างก็ดีนะ ช่วยให้ขับขี่สบายและมั่นใจมากขึ้น

รถยนต์นั้นประกอบไปด้วยองค์ประกอบมากมาย แต่ละส่วนก็จะมีการเสื่อมสภาพสึกหรอไปตามการใช้งานและกาลเวลา หลาย ๆ ครั้งที่การขับขี่บนท้องถนนมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีสาเหตุมาจากส่วนประกอบรถบางชิ้นมีการชำรุด จนต้องมีการเรียกเคลมประกันภัยรถยนต์กันวุ่นวาย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณควรสำรวจเช็คส่วนประกอบรถบ้าง แต่ละจุดควรจะเช็คหรือเปลี่ยนอะไหล่เมื่อไหร่ ไปดูกัน

เช็คส่วนประกอบระบบเบรก

ระบบเบรกนับเป็นจุดแรก ๆ ที่เราจะต้องมีการตรวจสอบ และจะต้องมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพราะจุดนี้หากชำรุดหรือไม่พร้อมในการใช้งานจริง ๆ ก็มักจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ข้อมูลจากบริษัทประกันภัยรถยนต์มีรายงานว่ากรณีเบรกแตกนั้นเกิดขึ้นได้บ่อย และมักเป็นกรณีที่ทำให้ต้องมีการขอเคลมประกันภัยรถยนต์กันตลอด ดังนั้นสิ่งที่จะต้องเช็คในระบบเบรกก็คือ

  • ผ้าเบรกหน้า – หลัง: เมื่ออายุใช้งานได้สัก 1 ปี หรือประมาณ 20,000 กม. ก็แนะนำให้เปลี่ยนได้เลย
  • จานเบรก: เป็นอีกจุดที่จะสึกหรอได้ ซึ่งควรเช็คทุก 1 ปี หรือประมาณ 20,000 กม. เช่นกัน
  • น้ำมันเบรก: ควรเปลี่ยนเมื่อครบ 2 ปี หรือเมื่อครบ 40,000 กม.
  • ระบบท่อจ่ายและสายน้ำมันเบรก: จุดนี้อาจมีการรั่วซึมได้ แม้จะไม่มีการรั่วซึมแต่ก็แนะนำให้มีการเปลี่ยนทุก 1 ปีหรือ 20,000 กม.

เช็คส่วนประกอบระบบบังคับเลี้ยว

ระบบบังคับเลี้ยวนั้นเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการบังคับควบคุมรถ จึงต้องมีการตรวจเช็คและเปลี่ยนอะไหล่ตามกำหนดเช่นกัน สิ่งที่ควรต้องเช็ค คือ

  • สายพานของพวงมาลัยพาวเวอร์: อาจเสื่อมหรือหลวมได้ แม้ไม่เสียหายแต่ก็ควรเปลี่ยนเมื่อครบกำหนด 2 ปี หรือ 40,000 กม.
  • น้ำมันของพวงมาลัยพาวเวอร์: น้ำมันอาจแห้งหรือเสื่อมสภาพ ก็ควรเช็คเมื่อครบ 2 ปีหรือ หรือ 40,000 กม.

เช็คส่วนประกอบระบบช่วงล่างของรถ

ระบบช่วงล่างมีความสำคัญต่อการขับขี่ไม่น้อย เพราะเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักและแรงกระแทกจึงต้องมีการเช็คสภาพตามระยะเช่นกัน สิ่งที่ต้องเช็คคือ

  • โช้คอัพ: ให้เช็คสภาพทั้งหน้า – หลัง และแนะนำให้เปลี่ยนใหม่เมื่อถึง 1 ปี หรือ 20,000 กม.
  • ยางหุ้มเพลารถ: ควรเช็คสภาพทุก ๆ 1 ปีหรือ 20,000 กม.
  • ลูกปืนล้อ:ให้เช็คสภาพทั้งหน้า – หลัง ทุก ๆ 1 ปีหรือ 20,000 กม.
  • จารบีช่วงล่างของรถ: ตรงนี้ควรมีการอัดใหม่ทุก 6 เดือน หรือประมาณ 10,000 กม.

เช็คส่วนประกอบระบบเกียร์

ระบบเกียร์ถือเป็นระบบส่งกำลังขับเคลื่อนรถยนต์ ซึ่งถ้าเกียร์พังค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนใหม่ทั้งระบบนั้นก็สูงทีเดียว จึงต้องมีการตรวจเช็คสภาพด้วย สิ่งที่ควรเช็คก็คือ น้ำมันเกียร์

  • เกียร์ธรรมดาหรือเฟืองท้าย: น้ำมันเกียร์ควรเช็คและเปลี่ยนเมื่อครบ 1 ปีหรือ 20,000 กม.
  • เกียร์ออโต้: น้ำมันเกียร์ควรเช็คและเปลี่ยนเมื่อครบ 2 ปีหรือ 40,000 กม.

เช็คส่วนประกอบระบบเครื่องยนต์

ระบบเครื่องยนต์นั้นมีความซับซ้อน แต่ก็ต้องตรวจเช็คด้วย เพราะมีผลโดยตรงต่อระบบรถยนต์ทั้งหมด สิ่งที่ต้องเช็คมีดังนี้

  • น้ำมันเครื่องและไส้กรอง: หากเป็นแบบกึ่งสังเคราะห์ให้เปลี่ยนทุก 6 เดือน หรือ 10,000 กม.ถ้าเป็นแบบสังเคราะห์ให้เปลี่ยนทุก 1 ปีหรือ 20,000 กม.
  • น้ำของระบบหล่อเย็น: ให้ตรวจเช็คเสมอ เติมและเปลี่ยนทุก 2 ปี หรือ 40,000 กม.
  • สายพาน: ทั้งสายพานขับและเครื่องยนต์ควรมีการเปลี่ยนทุก 2 ปี หรือ 40,000 กม.

นี่คือส่วนประกอบรถยนต์แต่ละส่วนที่คุณควรสำรวจตรวจสอบและเปลี่ยนอะไหล่ตามกำหนด เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่ดีใช้งานได้นานขึ้น ลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ แม้จะตรวจสอบสภาพแล้วก็ขอแนะนำว่าอย่ามองข้ามการทำประกันภัยรถยนต์ไว้ด้วย เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นเราเตรียมพร้อมรับมือไว้ทั้งก่อนและหลังจะดีที่สุดนั่นเอง